เมื่อวันที่ ๒๓ มี.ค.๖๖ เวลา ๑๑๐๐ พลเรือโท เผดิมชัย สุคนธมัต ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน เป็นประธานในพิธีปิดการศึกษาอบรมหลักสูตรการรบพิเศษแขนงการลาดตระเวนสะเทินน้ำสะเทินบกและจู่โจมนาวิกโยธิน รุ่นที่ ๕๒ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๖ ณ หอประชุมหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ค่ายกรมหลวงชุมพร อ.สัตหีบ จว.ชลบุรี
หลักสูตรการรบพิเศษ แขนงการลาดตระเวนสะเทินน้ำสะเทินบกและจู่โจมนาวิกโยธิน เป็นการฝึกเพื่อพัฒนาทักษะและเพิ่มประสิทธิภาพในการนำหน่วยให้กับผู้เข้ารับการอบรมมีความรู้ความสามารถเป็นผู้นำหน่วยทหารขนาดเล็กปฏิบัติการรบได้ทั้งบนพื้นดิน ทางทะเลและทางอากาศ อีกทั้งให้มีความรู้ความสามารถในการปฏิบัติทางยุทธวิธีภายใต้สภาพพิเศษและการปฏิบัติการพิเศษ แขนงการลาดตระเวนสะเทินน้ำสะเทินบกและจู่โจมของทหารนาวิกโยธินและสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติทางยุทธวิธีพื้นฐานและทำการฝึกหน่วยทหารอื่นได้ สำหรับในปีนี้ผู้เข้ารับการอบรม เป็นนายทหารสัญญาบัตรและนายทหารชั้นประทวน จากภายในและภายนอกกองทัพเรือ ที่สมัครใจเข้ารับการอบรม โดยผ่านการทดสอบร่างกายและตรวจสุขภาพ ทั้งร่างกายและสุขภาพจิต ตามที่กำหนด จำนวน ๙๗ นาย รวมระยะเวลาในการอบรม ๑๓ สัปดาห์ โดยแบ่งการอบรม ออกเป็น ๒ ขั้น ดังนี้
ขั้นที่ ๑ ภาคทฤษฎีหรือภาคที่ตั้ง เป็นการอบรมทางวิชาการในห้องเรียนและการฝึกปฏิบัติ รวมไปถึงการทดสอบการฝึก ระยะเวลาการฝึก จำนวน ๕ สัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ ๒๓ ธันวาคม ๒๕๖๕ จนถึงวันที่ ๒๖ มกราคม ๒๕๖๖
ขั้นที่ ๒ ภาคปฏิบัติหรือภาคสนาม เป็นการอบรมวิชาการทางการใช้งานหรือทางปฏิบัติ เพื่อทำให้ผู้เข้ารับการอบรม มีความเข้าใจเกิดทักษะและมีความชำนาญในการปฏิบัติการพิศษได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบด้วย
- การฝึกการลาดตระเวนสะเทินน้ำสะเทินบกหรือภาคทะเล ทำการฝึกในทะเลบริเวณชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก ระยะเวลาในการฝึก ๔ สัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๖๖ ถึงวันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖
- การฝึกการรบภายใต้สภาพพิเศษหรือภาคป่าและภูเขา ทำการฝึกในพื้นที่จังหวัดชลบุรี จังหวัดระยอง จังหวัดจันทบุรีและจังหวัดตราด ระยะเวลาในการฝึก ๔ สัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ ถึงวันที่ ๒๓ มีนาคม ๒๕๖๖
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา จำนวน ๑๓ สัปดาห์ มีผู้ที่สามารถผ่านการอบรม ตามขั้นตอนต่างๆ ทั้งการเรียน การฝึกและการทดสอบตามเกณฑ์ที่กำหนด จำนวน ๕๓ นาย จาก
หน่วยต่าง ๆ ดังนี้
- หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน จำนวน ๔๒ นาย
- หน่วยขึ้นตรงกองทัพเรือ จำนวน ๔ นาย
- กองทัพบก จำนวน ๔ นาย
- สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน ๓ นาย