ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในการจัดงาน เนื่องในวันสดุดีวีรชนกองทัพเรือ ประจำปี ๒๕๖๖

Release Date : 18-01-2023 08:02:32
ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในการจัดงาน เนื่องในวันสดุดีวีรชนกองทัพเรือ ประจำปี ๒๕๖๖

เมื่อวันที่ ๑๗ มกราคม ๒๕๖๖ พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในการจัดงาน เนื่องในวันสดุดีวีรชนกองทัพเรือ ประจำปี ๒๕๖๖ โดยมี พลเรือตรี สมรภูมิ จันโท รองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ผู้แทน ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ร่วมพิธีฯ พร้อมกับนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพเรือ ณ อนุสรณ์เรือหลวงธนบุรี โรงเรียนนายเรือ อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ โดยพิธีประกอบด้วย การวางพวงมาลาการอ่านคำสดุดีวีรชนกองทัพเรือ และการจัดพิธีสงฆ์ เพื่อระลึกถึงความกล้าหาญของวีรชนทหารเรือที่เสียสละชีวิต เพื่อปกป้องเอกราชและอธิปไตยของชาติ ทั้งนี้ ได้มีผู้ร่วมรบในสมรภูมิสำคัญของกองทัพเรือ เข้าร่วมในพิธีฯ ประกอบด้วย นาวาเอก ประทีป อนุมณี วีรบุรุษจากสมรภูมิบ้านดุซงญอ จังหวัดนราธิวาส และ นาวาโท บัญญัติ ฆารกุล วีรบุรุษจากสมรภูมิดอนน้อย กลางลำแม่น้ำโขง ชายแดนไทย – ลาว บ้านโพนลา ตำบลโพนลา อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย

พิธีสดุดีวีรชนและบำเพ็ญกุศลแด่วีรชนของกองทัพเรือ เป็นพิธีสำคัญที่กองทัพเรือจัดขึ้นเป็นประจำ ในวันที่ ๑๗ มกราคม ของทุกปี เพื่อให้ทหารเรือทุกนายได้แสดงความเคารพ และระลึกถึงวีรกรรมของบรรพบุรุษทหารเรือที่ได้ทำการรบอย่างเด็ดเดี่ยวกล้าหาญ และยอมพลีชีพเพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติจากศัตรูที่รุกรานแผ่นดินไทย ประวัติศาสตร์ได้จารึกความกล้าหาญของทหารเรือไทยในยุทธนาวีที่เกาะช้าง ระหว่างไทยกับฝรั่งเศส เมื่อวันที่ ๑๗ มกราคม ๒๔๘๔ โดยฝรั่งเศสได้ส่งกำลังทางเรือประกอบด้วยเรือลาดตระเวนลามอตต์ปิเกต์ เป็นเรือธง เรือสลุป ๒ ลำ และเรือปืน ๔ ลำ เรือสินค้าขนาดใหญ่ติดอาวุธ ๑ ลำ เรือดำน้ำ ๑ ลำ เข้ารุกล้ำน่านน้ำไทยบริเวณเกาะช้าง จังหวัดตราด เพื่อจะเข้าระดมยิงหัวเมืองชายทะเลทางภาคตะวันออกของประเทศ ทั้งนี้กำลังทางเรือของไทยที่รักษาการณ์อยู่ในบริเวณนั้นประกอบด้วย เรือหลวงธนบุรี เรือหลวงชลบุรี และ เรือหลวงสงขลา ภายใต้การบังคับบัญชาของ นาวาโท หลวงพร้อมวีรพันธุ์ ผู้บังคับการเรือหลวงธนบุรี แม้ว่าจะเสียเปรียบด้านกำลังรบอย่างมาก แต่วีรชนทหารเรือไทยได้ต่อสู้อย่างสุดกำลังความสามารถ จนต้องสูญเสียเรือรบทั้ง ๓ ลำไป พร้อมชีวิตนายทหารและลูกเรือ รวมทั้งสิ้น ๓๖ นาย รวมถึง นาวาโทหลวงพร้อมวีรพันธุ์ ฯ แต่เป็นที่น่าภูมิใจว่าด้วยกำลังทางเรือของกองทัพเรือไทย สามารถทำให้ข้าศึกได้รับความเสียหายจนต้องล่าถอยไปในที่สุด

สำหรับการรบครั้งสำคัญที่ทหารเรือได้พลีชีพเพื่อชาติและราชนาวี เมื่อครั้งสงครามโลก ครั้งที่ ๒ กองทัพเรือได้รับมอบภารกิจจัดเรือไปบรรทุกน้ำมัน ซึ่งเป็นยุทธปัจจัยสำคัญจากสิงคโปร์มายังประเทศไทย

โดยในครั้งนั้น เรือหลวงสมุย ได้ปฏิบัติภารกิจลำเลียงน้ำมันเชื้อเพลิง แม้ทราบว่าเส้นทางลำเลียงอยู่ในเขตปฏิบัติการของเรือดำน้ำฝ่ายสัมพันธมิตรก็ตาม ในการเดินทางเที่ยวสุดท้าย เมื่อวันที่ ๑๗ มีนาคม ๒๔๘๘ เรือหลวงสมุย ได้ถูกยิงด้วยตอร์ปิโดจากเรือดำน้ำฝ่ายสัมพันธมิตร จนจมลงที่บริเวณนอกชายฝั่งรัฐตรังกานู ทำให้กองทัพเรือต้องสูญเสียทหารผู้กล้าไปจำนวน ๓๑ นาย รวมถึงสูญเสียกำลังพล ในการต่อสู้ป้องกันการโจมตีทางอากาศ จากฝ่ายสัมพันธมิตรในแต่ละพื้นที่ในคราวเดียวกันนี้อีก ๗ นาย

นอกจากนี้ยังมียุทธการสำคัญที่ทำให้กองทัพเรือต้องสูญเสียทหารเรือผู้กล้าไปเป็นจำนวนมาก เช่น สงครามเกาหลี สงครามเวียดนาม การปราบปรามผู้ก่อการร้ายตามแผนยุทธการสามชัย จังหวัดเพชรบูรณ์ ยุทธการผาภูมิ ณ บริเวณดอยผาจิ จังหวัดเชียงราย การเข้ายึดค่ายกรุงชิง จังหวัดนครศรีธรรมราช ยุทธการดอนน้อย จังหวัดหนองคาย การรบที่บ้านชำราก จังหวัดตราด เหตุการณ์เรือ ต.๙๘ ปะทะกับเรือประมงติดอาวุธไม่ปรากฏสัญชาติที่จังหวัดระนอง รวมไปถึงการปฏิบัติภารกิจ เพื่อความสันติสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยุทธการเหล่านี้ล้วนแต่เป็นการเสียสละ เพื่อปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ โดยแลกไว้ด้วยชีวิตของวีรชนทหารเรือ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้มีชีวิตอยู่อย่างสันติสุข