ยุทธการบ้านหนองกก
อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี

 

     จากเหตุการณ์การสู้รบในกัมพูชาส่งผลกระทบต่อราษฎรไทยที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดนในพื้นที่ กำลังของเวียดนามเข้าทำการกวาดล้าง กำลังเขมรแดงบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ทำให้การสู้รบรุกล้ำเข้ามาในเขตไทยบ่อยครั้ง บริเวณพื้นที่ บ.หนองกก อ.โป่งน้ำร้อน จว.จันทบุรี เป็นพื้นที่หนึ่งที่เกิดเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าว ในขณะนั้น พัน.ร.๓ กรม ร.๑ นย. โดยมี น.ท.นรินทร์ อนันตสุข เป็นผู้บังคับกองพัน ได้รับมอบหน้าที่ในการจัดกำลังเป็น พัน.ร.๓ กจต.ปฏิบัติภารกิจป้องกันอธิปไตย บริเวณชายแดนด้าน อ.โป่งน้ำร้อน จว.จันทบุรี ตั้งแต่ ๑ ตุลาคม ๒๕๒๕

      พื้นที่ตรงข้ามในเขตกัมพูชา กำลังฝ่ายเวียดนาม ประมาณ ๑ กรม ร.ตั้งอยู่บริเวณหลังเขาจราง มีภารกิจในการกวาดล้างเขมรแดงกลุ่ม พอล พต ซึ่งมีกำลังประมาณ ๑ กองพัน ตรงข้าม บ.แหลม กำลังอีก ๒ กองพัน ตั้งอยู่ตามแนวลำคลองด้านใต้ บ.หนองกก ในเขตกัมพูชา การกวาดล้างกำลังเขมรแดง ของฝ่ายเวียดนามได้เริ่มขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เมื่อวันที่ ๑๒ มกราคม ๒๕๒๖ เวลาประมาณ ๐๖๐๐ กำลังฝ่ายเขมรแดง บริเวณ บ.หนองกก เข้าโจมตีกำลังฝ่ายเวียดนาม ที่ตั้งอยู่บริเวณเขาจราง แต่กำลังเขมรแดงดังกล่าวถูกฝ่ายเวียดนามตีโต้ตอบอย่างหนักจนต้องล่าถอยผ่านเขตไทยบริเวณ บ.หนองกก กลับเข้าที่ตั้งด้านใต้ บ.หนองกก ในเขตกัมพูชา

      กำลังฝ่ายเวียดนามได้ไล่ติดตามกำลังเขมรแดงเข้ามาในเขตไทย ตามเส้นทางการถอนตัวของฝ่ายเขมรแดงผ่าพื้นที่ บ.หนองกก กำลังทหารเวียดนาม ทำการตีโต้ตอบ และไล่ติดตามโดยมีการลากสายโทรศัพท์สนามจำนวนหลายสาย ผ่านพื้นที่เพื่อใช้สั่งการในการเข้าตี และเกิดการปะทะอย่างหนักระหว่าง กำลังฝ่ายเวียดนามกับกำลังเขมรแดงบริเวณฐานที่ตั้งของเขมรแดง ในขณะนั้น ร้อย.ปล.ที่ ๒ พัน.ร.๓ กจต.ซึ่งวางกำลังรับผิดชอบในพื้นที่ดังกล่าว โดยมี ร.อ.ธำรง เดชวรรณ เป็น ผบ.ร้อยฯ ไม่สามารถติดต่อกับกองรักษาด่านรบ(กดร.)ที่ตั้งอยู่บริเวณ บงหนองกก ได้ จึงเดินทางไปตรวจสอบเหตุการณ์พร้อมด้วย พ.จ.อ.ไพศาล เหลืองทองคำ พันจ่ากองร้อย, จนท.สื่อสาร และพลขับรถ ๑/๔ ตัน ระหว่างเดินทางผ่านบริเวณแยก บ.เทพนิมิต พบประชาชนในพื้นที่ส่วนหนึ่ง อพยพออกมา เมื่อเดินทางถึง กดร.จึงทราบว่ามีกำลังเวียดนามส่วนหนึ่งรุกเคลื่อนที่ผ่านเข้ามาในเขตไทยและ จ.อ.เล็ก บุญเรือง ผบ.กดร.ได้นำกำลังเข้าพิสูจน์ทราบ และไม่สามารถติดต่อกับหน่วยเหนือได้

      ในขณะนั้น จ.อ.เล็ก บุญเรือง ได้จัดชุด ลว.ทำการลาดตระเวนในพื้นที่ที่คาดว่ากำลังฝ่ายตรงข้ามรุกเข้ามาบริเวณ บ.หนองกก ในขณะทำการลาดตระเวน ตรวจพบสายโทรศัพท์สนามที่ฝ่ายเวียดนามวางพาดผ่านเข้ามาจากด้านเหนือของ บ.หนองกก บริเวณเขาจราง เข้าไปทางด้านใต้ของ บ.หนองกก ซึ่งเป็นที่ตั้ง ของเขมรแดง ชุดลาดตระเวนทำการลาดตระเวนไปตามแนวสายโทรศัพท์สนาม และตรวจพบกำลังเวียดนามประมาณ ๒๐ คน จึงเข้าโจมตีกำลังเวียดนามดังกล่าว การปะทะดำเนินไปประมาณ ๓๐ นาที

       ทหารเวียดนามจึงถอนกำลังออกนอกเขตไทย ชุดลาดตระเวนตรวจพื้นที่ปะทะ สามารถยึดยุทโธปกรณ์และสายโทรศัพท์สนามที่ฝ่ายตรงข้ามวางไว้ยาวประมาณ ๑.๕ กม. ขณะกำลังเก็บรวบรวมสายโทรศัพท์สนาม ผบ.ร้อย.ปล.ที่ ๒ ฯ และคณะเดินทางมาติดต่อกับ กดร.ที่ บ.หนองกก เพื่อรับทราบสถานการณ์ได้เดินทางไปพบ ชุดลาดตระเวนในพื้นที่ปะทะซึ่งอยู่ในไร่ข้าวโพด และ ผบ.กดร.ไม่สามารถยืนยันได้ว่า มีกำลังฝ่ายตรงข้ามอยู่ในพื้นที่อีกหรือไม่ ผบ.ปล.ร้อย.ที่ ๒ ฯ จึงแจ้งให้ ผบ.กดร.ทราบว่าจะกลับไปรายงานให้หน่วยเหนือทราบ และจะส่งกำลังเพิ่มเติม ในระหว่าง ผบ.ร้อย.ปล.ที่ ๒ ฯ และคณะเดินทางกลับ ฝ่ายตรงข้ามได้ใช้อาวุธ ปรส. ยิงมาจากเขาจราง ๓–๔ นัด กระสุนตกระเบิดบริเวณห่างจากรถประมาณ ๕๐ ม. ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ ร.อ.ธำรง ฯ จึงขอ ป.สนาม ทำการยิงโต้ตอบ และสั่งการให้ รถติด ปรส.๑๐๖ มม.เข้าที่ตั้งทำการยิงโต้ตอบทันที และเดินทางกลับไปรายงานเหตุการณ์ให้ ผบ.พัน.ฯ ทราบ ชุดลาดตระเวนได้ทำการลาดตระเวนต่อไปโดยเคลื่อนที่ ไปด้านใต้ของพื้นที่ บ.หนองกก ตรวจพบทหารเวียดนามประมาณ ๓๐ คน เคลื่อนที่เข้ามาในพื้นที่ บ.หนองกก และเกิดการปะทะกันขึ้น โดยฝ่ายเวียดนามกระจายกำลัง ออกทำการยิงมายังชุดลาดตระเวน ผบ.ชุดลาดตระเวน สั่งการให้ชุดลาดตระเวนทำการยิงโต้ตอบทันที ฝ่ายทหารเวียดนามได้รับความเสียหายอย่างหนัก การปะทะดำเนินไป ประมาณ ๓๐ นาที ทหารเวียดนามถอนตัวออกนอกเขตไทย ชุดลาดตระเวนเข้าทำการตรวจค้นบริเวณพื้นที่ปะทะพบศพทหารเวียดนาม ๑ ศพ และจับกุมทหารเวียดนาม ที่ได้รับบาดเจ็บ ๑ คน พร้อมยึดยุทโธปกรณ์ได้จำนวนมาก ต่อมาได้ทราบข่าวว่า ทหารเวียดนามที่หลบหนีไปนั้นได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายคน

       หลังจากการปะทะ ผบ.พัน.ฯ จึงสั่งการให้ ร้อย.ปล.ที่ ๓ ฯ จัดกำลัง ๑ มว.ปล.นำโดย ร.ต.สุวิทย์ ดีวงศ์ เข้าเพิ่มเติมกำลังที่ กดร. บ.หนองกก เพื่อทำการค้นหาและผลักดัน กำลังของฝ่ายตรงข้ามให้ออกนอกเขตไทยโดยเร็ว เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับความปลอดภัย ซึ่งในขณะนั้นได้อพยพไปอยู่ที่ บ.เทพนิมิต เป็นส่วนใหญ่

       การผลักดันกำลังของฝ่ายตรงข้ามที่รุกล้ำเขตแดนไทยในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความสามารถปฏิญาณไหวพริบของ ผบ.กดร.และความกล้าหาญของกำลังพลที่ กดร.บ.หนองกก ซึ่งมีเพียง ๑ หมู่ ขับไล่และทำลายข้าศึกที่มีจำนวนมากกว่าให้ออกนอกเขตไทย และสร้างความสูญเสียให้ฝ่ายตรงข้าม